ไปบุกเมืองสุรินทร์กันบ้างครับ …ถิ่นช้างใหญ่ ผ้าไหมงาม ประคำสวย ร่ำรวยปราสาท ผักกาดหวาน ข้าวสารหอม งามพร้อมวัฒนธรรม… มาเต็มขนาดนี้ต้องมีของดีรอเราอยู่ ไปลุยกันเลย!! ทริปนี้เป็นหนึ่งในการโปรโมทแคมเปญ 12 เมืองต้องห้าม…พลาด Plus ของ ททท. ครั้งนี้ผมบิน Air Asia ขึ้นที่ดอนเมืองลงที่สนามบินบุรีรัมย์ ใช้เวลา 55 นาที แล้วต่อรถเข้าตัวเมืองสุรินทร์ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ (ทาง Air Asia มีบริการรับ-ส่ง เข้าตัวเมืองสุรินทร์ โดยจ่ายเพิ่มตอนซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยได้เลย) เช็คราคาได้ที่ – – > http://airasia.com
ทริปนี้ขอขับรถเที่ยวเอง ผมเช่ารถจาก Thai Rent A Car จองง่ายมากครับ เข้าไปที่ http://thairentacar.com แล้วก็มาติดต่อที่ counter ในสนามบิน มีรถให้เลือกหลายขนาดเลย ผมจองขนาด XL แบบ SUV ได้เป็น Toyota Fortuner สภาพใหม่เอี่ยม คันนี้มีกล้องหลังด้วย หลังจากนั้นก็เปิด google map มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกันเลย
แวะทานมื้อแรกก่อนถึงตัวเมืองที่ร้าน มะเซิล-สะเร็น อยู่ที่ถนนเส้น 214 เลยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติมาซักหน่อย ร้านตกแต่งแนววินเทจ พร้อมอาหารคาวหวานเครื่องดื่มเพียบ สั่งไปหลายอย่างทั้งสุกี้โบราณแค๊ปหมู ข้าวผัดมะเซิล ราดหน้าเส้นกรอบหมูนิ่ม และ ที่ชอบมากคือก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ เส้นนุ่มมากกกต่างจากที่เคยกินมา สำหรับเครื่องดื่มเป็น ชามะนาว มะพร้าวปั่น และ สตรอเบอร์รี่สมูทตี้ จัดเต็มกันไปเลย ทั้งหมดนี้ 355 บาทเท่านั้น ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 40-70 บาท
วิ่งต่อเข้าที่พัก โรงแรม สุรินทร์ มาเจสติก ราคาสบายกระเป๋า คืนละ 1,200 บาท 2 คน รวมอาหารเช้า ห้องพักสะอาดที่สำคัญสะดวกกับการเดินทางไปกินเที่ยวแหล่งต่างๆ หลังจากเก็บข้าวของแล้วก็ออกลุย ที่นี่มีที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่คือ Brio Melon Farm อยู่ที่ ถ.ปัทมานนท์ ออกจากตัวเมืองมาไม่ถึงสิบนาที เป็นฟาร์มพืชผักผลไม้ จุดเด่นอยู่ที่มี เมล่อน กว่า 10 สายพันธุ์ ทั้งจากญี่ปุ่นและตะวันออกกลาง ให้เราได้ศึกษาโดยคิดค่าชมฟาร์มคนละ 100 บาท และสามารถซื้อกลับไปได้ด้วย ตอนที่ไปถึงฝนเจ้ากรรมดันตกหนักมากกกก็เลยไม่ได้เข้าฟาร์มครับ แต่กินกับพีทมาทั้งทีก็จัดไปอย่าให้เสีย สั่งเลย ไอติมเมล่อนนม เมล่อนเชอร์เบท และ นมน้ำผึ้งโฮมเมดของที่ฟาร์ม ลูกละ 49 บาท รสชาติหอมหวาน เนียนนุ่ม ลงตัวมากๆ ก่อนกลับคุณแม่ซื้อของโปรด มะเขือเทศราชินี ที่ฟาร์มปลูกเอง หวานมากไม่เหมือนในกรุงเทพ ถูกใจแม่เลย เพื่อนๆที่สนใจลองดูตามนี้เลยครับ https://www.facebook.com/BRIOMELON/
ตกเย็น กลับเข้าตัวเมือง แวะเดินเล่นตลาดไนท์บาซาร์ ของกินเพียบ
มื้อเย็นวันแรก สุรินทร์โภชนา ร้านข้าวต้ม อยู่ที่ ถ.ธนสาร เปิดเย็นๆถึงตีสาม ร้านนี้เค้าขึ้นชื่อ เป็ดคั่วเค็ม ขอบอกว่ามันเกินคาดจริงๆ เนื้อนุ่มกรอบเค็มกำลังดี ทานกับข้าวสวยข้าวต้มอร่อยทั้งน้านนน ผมสั่งเพิ่ม สายบัวผัดขี้เมา และไข่เค็มผัดหมูสับ รสชาติดีเยี่ยม เนื้อเป็นเนื้อ ปริมาณเยอะมาก ในราคาคนละไม่ถึง 200 บาท กลับโรงแรม นอนหลับสบายเลยละครับ
สวัสดียามเช้าวันที่ 2 วันนี้ไปลอง โจ๊กหลักเมือง ชื่อนี้เพราะอยู่ตรงข้ามศาลหลักเมืองนี่เอง ร้านนี้ขายเฉพาะช่วงเช้า 6:00น. -11:00น. และปิดวันอาทิตย์ โจ๊กหมูหอมกลมกล่อมเพราะที่นี่ใช้ข้าวหอมมะลิจากทุ่งกุลาร้องไห้ ที่สำคัญชามละ 30 บาท เกาเหลาเลือดหมูก็เด็ดไม่แพ้กัน เครื่องเต็มชามทานคู่กับข้าวหอมมะลิร้อนๆและน้ำจิ้มรสเด็ด เบิ้ลอีกชามก็ยังไหว
อิ่มท้องแล้วก็พร้อมเที่ยว มาถิ่นเมืองช้างก็ต้องไปชมน้องช้างกันซักหน่อย ผมไปที่หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง อ.ท่าตูม หมู่บ้านช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีทั้งพิพิธภัณฑ์ การแสดง และให้บริการขี่ช้างชมวิว เรียกได้ว่าได้ใกล้ชิดกับช้างของจริงแน่นอน ค่าเข้าชมคนละ 50 บาท ส่วนการแสดงมีรอบ 10:00น. และ 14:00น. ระหว่างรอชมการแสดงสามารถเดินเล่นรอบๆได้เลยเพราะที่นี่เค้าอยู่กันเป็นหมู่บ้านจริงๆ ไฮไลท์อยู่ที่ช้างพลายทองใบ เป็นช้างเชือกที่ใช้ร่วมในงานและพิธีสำคัญต่างๆของจังหวัดสุรินทร์ จากรูปที่เห็นงาโดนตัดไปนี่เพราะว่านำไปเป็นส่วนผสมของโกศสมเด็จพระสังฆราชครับ
กลับจากดูช้าง ก็มากินก๋วยเตี๋ยวตูดช้าง ฮ่าๆๆ ไม่ใช่เนื้อช้างๆจริงๆนะ เป็นเพราะร้านตั้งอยู่ด้านหลังวงเวียนช้าง เลยมีก้นช้างหันใส่ ร้านชื่อ ตงเฮง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แต่คนที่นี่ก็เรียกกันติดปากว่า ร้านตูดช้าง เปิดตั้งแต่ 07:00น. ถึงบ่ายต้นๆขายหมดก็ปิดร้านละครับ ก๋วยเตี๋ยวชามไม่ใหญ่นัก แต่เนื้อหมักหอมดีเลย ชามละ 35 บาท
ข้ามฝั่งวงเวียนช้างมาหน้าโรงแรมนิวโฮเต็ล สะดุดตาร้าน บิ หอยทอดเจ้าเก่า สั่งมาทั้งสองอย่างเลยครับ หอยแมลงภู่และหอยนางรม ขอบอกว่าฟินมากกก แป้งกรอบๆหอยมาเต็ม ราคา 35 กับ 60 บาทเอง!! สุดยอดไปเลย
ต่อมื้อเย็นของจริง ร้านยิ่งดี อยู่ติดกับโรงแรมนิวโฮเต็ล เปิดทุกวัน 11:00น. – 23:00น. เป็นแนวอาหารตามสั่ง มื้อนี้ให้ทางร้านแนะนำ และไม่ผิดหวังเลยเพราะว่า ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา ผัดผักหวานปลากรอบ ยอดมะระไฟแดง ทานกับข้าวหอมมะลิร้อนๆ มันช่างดีงามเหลือเกิน ราคาอยู่ที่ 100-200 บาท
มื้อเช้าวันที่ 3 ไปทานก๋วยเตี๋ยวน้ำซุปกระดูกหมู เส้นบะหมี่ไข่ทำเอง ที่ร้าน สิงโตก๋วยเตี๋ยวหมู 9:00น.- 15:00น. จะขายอยู่ที่ซอยหลังศาลากลาง ส่วนตอนเย็น 17:30น. – 23:00น. จะเข็นรถเข็นมาขายอยู่หน้ารร.สุรวิทยาคาร ร้านปิดวันอาทิตย์เส้นบะหมี่ทำเองนุ่มมากๆ ทานคู่กับซุปกระดูกล้นชาม เนื้อนุ่มสุดๆ ซุปหวานกลมกล่อม เรียกได้ว่าไม่ต้องปรุงอะไรเลย ทั้งหมดนี้ ชามละ 30 บาทเท่านั้น
วันนี้เอาใจสาวๆไปเที่ยวหมู่บ้านทอผ้าไหมท่าสว่าง ขึ้นชื่อเรื่องผ้าไหมยกทอง ถึงกับได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ทอผ้าไหมให้กับผู้นำเอเปค ภายในหมู่บ้านมีการโชว์การทอผ้าไหมยกทอง 1 ผืนนี่ต้องใช้ถึง 4 คนทอเลยนะครับ อึ้งไปเลยใช่มั๊ยหละ ชาวบ้านจะทอผ้าไหมมาวางขายตลอดทางเดิน ราคาต่ำกว่าในห้างเยอะเลย เดี๋ยวนี้มีแนวประยุกต์เพื่อให้วัยรุ่นใส่ได้ด้วย เดรสแบบนี้ราคา 2,200 บาท ซื้อเป็นผืนราคาอยู่ที่ 2,000 – 3,000 บาท สาวๆตาลายเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว สีหวานๆพาสเทลก็มีนะเนี่ย
ซื้อผ้าไหมกันจนเพลิน ท้องเริ่มร้อง กลับเข้าตัวเมืองมาหาอะไรกินกันดีกว่า ร้านขนมจีนยายฟัก อยู่ที่ถ.เทศบาล 3 ด้วยความหิว จัดมาเลย น้ำยาปลาทู แกงไก่ และน้ำพริก ถึงรสถึงเครื่อง เอาใจไปเลย ราคาเบาๆ 30 บาท แต่ให้ปริมาณจัดเต็ม! 3 คน กินกันจนอิ่มยังจ่ายไม่ถึงร้อยเลย
ตกบ่ายแวะร้านกาแฟ bar-rista ถ.สุริยกานต์ เอกลักษณ์อยู่ที่เมล็ดกาแฟปลูกเอง คั่วเอง จากดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ กาแฟหอมกรุ่น เข้มกำลังดี ทานกับเค้กมะพร้าวอ่อนหอมหวานมัน ลงตัวดีทีเดียว ราคาอยู่ที่ 35-55 บาท
มื้อเย็นไปลอง เฮียเกี๊ยกเย็นตาโฟ ถ.หลักเมือง เย็นตาโฟทรงเครื่อง ทะเลล้นชามจนบังเส้นมิด กับก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูตุ๋น หมูนุ่มละลายในปาก ราคา 35-45 บาท
อรุณสวัสดิ์วันที่ 4 วันนี้เตรียมตัวกลับกรุงเทพ แวะร้านขายของฝาก ลิ้ม อี่ เฮียง ถ.ธนสาร เจ้านี้เก่าแก่ เจ้าของร้านใจดี น่ารัก ทำกุนเชียงและหมูหยองเอง อร่อยมากห้ามพลาดนะคร้าบ กาละแมก็นุ่มหนึบ ผมซื้อกลับมาตรึมเลยครับ เอาล่ะขับรถกลับสนามบินบุรีรัมย์ การคืนรถสะดวก รวดเร็ว ส่งมอบกับเจ้าหน้าที่ Thai Rent A Car หน้าทางเข้าสนามบิน พร้อมเดินทางกลับด้วย Air Asia ถึงดอนเมืองตรงเวลาอย่างปลอดภัย….สำหรับทริป “ตะลุยกิน ณ สุรินทร์ ถิ่นเมืองช้าง” ผมยกรางวัลร้านอาหารโดนใจให้กับ สิงโตก๋วยเตี๋ยวหมู ขนมจีนยายฟัก สุรินทร์โภชนา และบิ หอยทอด ตามลำดับเลยครับ แหม่ พูดไปก็น้ำลายสอ มีโอกาสต้องกลับไปอีกแน่นอนคร้าบ
#AirAsiaThailand #ท่องเที่ยวไทย #12เมืองต้องห้ามพลาดplus #eatwithpete #กินกับพีทเที่ยวกับผม
#สุรินทร์ถิ่นช้าง #เช่ารถบุรีรัมย์ #ThaiRentACar #plernplerntravel