วันหยุดยาวทั้งที จะมีอะไรดีไปกว่าการนัดปาร์ตี้กับแก๊งเพื่อน แต่เพื่อนกลุ่มนี้ของผมไม่ธรรมดานะค้าบ
ถึงพวกเขาจะตัวจิ๋ว แต่ถึงเวลาหิวขึ้นมาแล้วละก็ เอาอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่ ในฐานะกูรูเรื่องของอร่อย
ผมเลยรับอาสาสรรหาร้านที่คิดว่าน่าจะถูกใจเพื่อนๆ สายแบ๊วของผม ตามไปดูกันเลยครับ
ว่าผมจะพาพวกเขาไปชิมเมนูอร่อยกันที่ไหน
ผมเลือกร้าน “Shugaa” ซึ่งเป็น Dessert bar หน้าตาน่ารัก ตั้งอยู่ในอาคาร The Residence@61 ซอยสุขุมวิท 61
ภายในร้านแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นส่วนสำหรับลูกค้าที่เข้ามาทานขนม ส่วนบริเวณชั้น 2 จะเป็นพื้นที่สำหรับ
คลาส DIY สอนตกแต่งเค้กด้วยน้ำตาลฟองดอง ตัวร้านตกแต่งด้วยสีพาสเทลหว๊านหวาน ด้านหน้าเป็นกระจกบานใหญ่
ทำให้ร้านดูโปร่ง สว่าง ใครที่ชอบถ่ายรูปรับรองเลยครับว่ามาร้านนี้ได้รูปสวยๆ กลับไปแน่ๆ
…ว่าแต่เพื่อนๆ ของผมมาถึงกันรึยังน้า….
นั่นไง “ปิกาจู” มาถึงก่อนใครเลยครับ ท่าทางจะหิวมาก ถึงได้สั่งเครื่องดื่มมาแบบไม่รอใคร
เมนูนี้คือ “S’MORE” เป็นสมูทตี้ที่มีส่วนผสมหลักคือโกโก้และนม ราดด้วยช็อกโกแลตซอส รสหวานมันกำลังดี
ซูมดูใกล้ๆ จะเห็นว่าด้านบนมีมาร์ชเมลโล่หนึบๆ ที่ผ่านการทอร์ช (Torch) จนป็นสีน้ำตาลไหม้นิดๆ
และมีครัมเบิ้ลกรุบๆ โรยมาให้ด้วย น่าทานมากกกกกก…
มีสมาชิกมาเพิ่มอีกคนแล้ว “ปีเตอร์แพน” กับเมนู “Iris’s Home” ทาร์ตที่ผสานความเปรี้ยวของ
Passion fruit เข้ากับความหวานของน้ำผึ้ง และ Italian meringue ได้อย่างลงตัว
ส่วนเจ้า “สติทช์” ขอจัดแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ กับเมนู “Chocolate Hazelnut Luscious Croissant”
ครัวซองค์พุดดิ้ง ที่ใช้ครัวซองค์เนยสดแช่กับนมสดและวานิลลา มาพร้อมกับซอสช็อกโกแลตเฮเซลนัท,
ฟัดจ์บราวนี่ และไอศครีมโฮมเมด เสิร์ฟมา บนกระทะร้อน จนเห็นซอสเดือดปุดๆ
วิธีทานให้อร่อยต้องราดซอสลงไป แล้วตักคำใหญ่ๆ ใส่ปาก อ้ามมมมม อร่อย
ส่วนคู่นี้ต้องมาพร้อมกัน “มิกกี้ และ มินนี่” ทั้งคู่เลือกเมนูหวานๆ ที่ชื่อว่า “Old Rose”
เมนูนี้เป็นไวท์ช็อกโกแลต ข้างในมีเฮเซลนัทเฟยติน (Hazelnut Feuillantine) เป็นแป้งกรอบบางๆ
สีน้ำตาลทอง รสชาติหวานนิดๆ มักจะเห็นบ่อยๆในของหวานสไตล์ฝรั่งเศส
แก๊งใหญ่ขาโหดจาก “สตาร์วอร์” มาแล้วววววว…. เลือกเมนูอะไรเนี่ย หน้าตาประหลาดๆ
“Miror Miror” เป็นเมนูใหม่ของทางร้าน ที่รังสรรค์ขึ้นจากความทรงจำในวัยเด็ก โดยได้แรงบันดาลใจจากนิทาน
เรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้ง 7 ประกอบด้วยดาร์กช็อคโกแลตเข้มข้น เคลือบด้วย Glazed Apple Caramel
จนดูเงาคล้ายกระจก สอดไส้ด้วยแอปเปิ้ลชิ้นโต เพิ่มความสนุกด้วยช็อคโกแลตสโมคครัมเบิ้ล
และแคนดี้ป๊อปรสแอปเปิ้ล…เมนูแปลกอย่างนี้ ต้องถ่ายรูปไปอวดเพื่อนๆ หน่อย
ต้องยอมรับเลยว่าร้านนี้ใส่ใจรายละเอียดของทุกเมนูจริงๆ ครับ และโชคดีที่วันนี้ผมพกสมาร์ทโฟน
“Wiko Upulse” มาด้วย เพราะรุ่นนี้มีโหมด Super Pixel ที่เก็บได้ทุกรายละเอียดเล็กๆ ของภาพถ่าย
ให้รายละเอียดภาพถึง 52 ล้านพิกเซล แถมยังสามารถซูมดูภาพจากหน้าจอได้ถึง 16 เท่า!!!
ดูอย่างเมนู “Jao Klom” ชีสเค้กสอดไส้เคิร์ดส้มยูสุนี่สิ ทางร้านก็ตกแต่งผิวให้ขรุขระนิดๆ
จนเหมือนจนผิวเปลือกส้มจริงๆ เลยล่ะ
ใช้โหมด Super Pixel ของ Wiko Upulse ถ่ายใกล้ๆ จะเห็นผงคินาโกะ (ผงถั่วเหลือง) ที่โรยเคลือบอยู่ด้านนอก
ชัดแบบเกล็ดต่อเกล็ดเลยครับ ร้านนี้เขาสร้างสรรค์ทุกเมนูอย่างละเมียดละไม ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ
ดูอย่างลายใบไม้สิครับ เขาเลียนแบบลวดลายตามธรรมชาติได้เหมือนจริงๆ… ชมไปแล้วมาลองชิมบ้าง…
กัดลงไปจะสัมผัสได้ถึงเทกเจอร์ที่หลากหลาย รสชาติจะหวานมัน และอมเปรี้ยวนิดๆ ครับ
ปิดท้ายด้วยเมนูเครื่องดื่มสักหน่อย แก้วนี้คือ “Summer Breeze” เป็นสมูทตี้ที่ผสมความเปรี้ยวและหวาน
ของมะม่วงและพีชเข้าด้วยกัน …ดูใกล้ๆ ด้านบนสีขาวๆ คือครีมชีสฟองหนานุ่ม และท็อปปิ้งด้วยเอิร์ลเกรย์ครัมเบิ้ล
เนื้อละเอียด…ดื่มแล้วสดชื่นขึ้นมาทันที
บอกเลยว่า วันนี้นอกจากจะฟินกับเมนูขนมหวานหลากหลายแล้ว ผมและเพื่อนตัวจิ๋วยังถ่ายภาพกันสนุกสนานมากๆ
เพราะทุกเมนูที่นี่ตกแต่งมาอย่างสวยงามจริงๆ…ยอมรับเลยว่าถ่ายไปเป็นร้อยรูปครับ เลือกไม่ถูกจริงๆ 555
ข้อดีอีกอย่างของสมาร์ทโฟน Wiko Upulse ที่ผมพกมาวันนี้คือ หน้าจอเขาจะสว่างชัดแม้อยู่กลางแจ้งครับ
ผมนั่งโต๊ะติดกระจก แสงเข้าเต็มๆ แต่ไม่มีปัญหาหน้าจอมืดเวลาเลือกรูปเลย
เป็นไงบ้างครับ หนึ่งวันกับแก๊งเพื่อนจิ๋วของผม… ภาพทั้งหมดนี้ผมถ่ายด้วยสมาร์ทโฟน Wiko Upulse
ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยครับว่า สมาร์ทโฟนราคาคุ้มค่าก็มีคุณภาพไม่แพ้ใครเลย ก็เหมือนกับที่บ้านเรามีร้านอาหารดีๆ
ไม่แพ้ต่างประเทศเลยครับ ทั้งเรื่องรสชาติ และความใส่ใจแม้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ
…ว่าแต่…เพื่อนพีทใช้วันหยุดไปเที่ยว ไปกิน ไปทำอะไรสนุกๆ ที่ไหนกันบ้าง เจอร้านไหนเด็ดก็แนะนำกันบ้างนะครับ
พีทและแก๊งเพื่อนจิ๋วจะตามไปกิน!!! #WikoSmartphonefromFrance #WikoUpulse
